top of page

Okinawa สีสันหาดทรายแห่งญี่ปุ่น

  • KENICHI ENOKIZONO
  • 2016年8月3日
  • 読了時間: 2分

โอกินาว่า เป็นหมู่เกาะที่อยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น โดยเกาะโอกินาว่า อยู่ต่ำกว่าเกาะคิวชูถึง 500 กิโลเมตร โดยมีเมือง นะฮะ เป็นเมืองหลวงอยู่ที่เกาะโอกินาว่า จังหวัดโอกินาว่าเป็นหมู่เกาะที่มีเกาะๆหลักประมาณ 20 เกาะ และเกาะรองๆ อีกร่วมร้อยเกาะ นอกจากธรรมชาติของหมู่เกาะที่เต็มไปด้วยหาดทรายและทะเลที่งดงามแล้ว ก็ยังเป็นเกาะที่มีหาดสวยเป็นอันดับที่สามของโลกอีกด้วย อีกทั้งเกาะแห่งนี้ยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนานของชาวริวกิว ที่ในอดีตเคยตกเป็นทั้งเมืองขึ้นของประเทศจีนและญี่ปุ่น แถมยังถูกปกครองโดยอเมริกานานถึง 27 ปีด้วย!

หมู่เกาะที่มีวัฒนธรรมอันหลากหลาย

เกาะริวกิวในอดีตนั้น อยู่ระหว่างคิวชู กับไต้หวัน เป็นหมู่เกาะที่อยู่ใกล้กับประเทศจีน จึงเคยเป็นเมืองขึ้นและส่งบรรณาการให้ประเทศจีนมาก่อน แต่เกาะแห่งนี้ถูกยึดโดยรัฐบาลโทกุงะวะในยุคเมจิ เมืองนี้ถูกปกครองโดยประเทศญี่ปุ่นจนกระทั่งถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็นโอกินาว่าในวันที่ 1 มีนาคม ปี ค.ศ.1879 ซึ่งชื่อโอกินาว่า หมายถึงแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวประมง เนื่องจากคนที่นี่ทำอาชีพประมงเป็นหลัก ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง หมู่เกาะโอกินาว่า ถูกยึดโดยกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา และทางสหรัฐอเมริกาได้สร้างฐานทัพขึ้นที่นี่พร้อมกับกำลังพลหลายหมื่นนาย ทำให้โอกินาว่ากลายเป็นฐานทัพสหรัฐอเมริกานานกว่า 27 ปี ก่อนจะคืนให้ญี่ปุ่นในปี ค.ศ.1972 ภายใต้สนธิสัญญาความร่วมมือและความปลอดภัยระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่น (Treaty of Mutual Cooperation and Security between the United States and Japan; 日本国とアメリカ合衆国との間の相互協力及び安全保障条約 Nippon - koku to Amerika - gasshūkoku to no Aida no Sōgo Kyōryoku oyobi Anzen Hoshō Jōyaku) ด้วยเหตุนี้เอง หมู่เกาะโอกินาว่า จึงเป็นหมู่เกาะที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและอารยธรรมหลากหลายรูปแบบ สถาปัตยกรรมโบราณ รวมถึงธรรมชาติที่งดงามอีกด้วย ซึ่งหลักฐานทางวัฒนธรรมโบราณของริวกิวนั้นมีอยู่มากมาย อย่างเช่นปราสาทชูริ หรือ ปราสาทนากิชิน ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว

ปราสาทชูริ

พระราชวังของอาณาจักรริวกิว ถูกใช้เป็นที่พำนักของกษัตริย์ โช ฮาชิ ในช่วง ค.ศ.1322 - ค.ศ.1429 หลังจากรวบรวมและตั้งอาณาจักรริวกิวขึ้นมา ปราสาทแห่งนี้ถูกทำลายหลายต่อหลายครั้ง และในช่วงสงครามโอกินาว่าก็ถูกกองทัพสหรัฐยิงถล่ม จนกระทั่งในปี ค.ศ.1992 ก็บูรณะขึ้นใหม่ และถูกนำขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพร้อมกับปราสาทและโบราณสถานอื่นๆอีก 9 แห่ง ประกอบไปด้วย ปราสาทนากิจิน ปราสาทซาคิมิ ปราสาทคัทสึเรน ปราสาทนากะกุซุคุ ประตูโซโนเบียนอุตะไคชิ เขตทะมะอุโดอุน สวนชิกินะเอน และเซฟา อุตะกิ

พิพิธภัณฑ์ทางทะเล โอกินาว่า “โอกินาว่า ชูราอุมิ ซุยโซกุคัง”

บนดินแดนที่มีหาดทรายอันงดงาม และแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรง แต่ทว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอันดับหนึ่งของโอกินาว่าคือ พิพิธภัณฑ์ทางทะเล โอกินาว่า ชูราอุมิซุยโซกุคัง ซึ่งที่แห่งนี้เคยเป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนจะโดนแซงโดยอควาเรียมที่จอร์เจีย ในปี ค.ศ.2005 แต่ถึงจะแม้โดนแซงไปแต่ที่นี่ก็มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมอยู่เป็นจำนวนมาก และได้บันทึกเป็นสถิติไว้ว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยียมชมถึง 20 ล้านคน ในปี ค.ศ.2010 โดยในปี ค.ศ.2012 มีผู้เข้าชมตลอดทั้งปี 2.8 ล้านคน

คุโรชิโอะ ซี บ่อน้ำที่เคยใหญ่ที่สุดในโลก

จุดเด่นของอควาเรียมแห่งนี้คือ คุโรชิโอะ ซี บ่อน้ำใหญ่ที่มีความจุกว่า 7,500 ลูกบาศก์เมตร ขนาด 35 x 27 เมตร และลึก 10 เมตร ซึ่งบ่อน้ำนี้ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะนอกจากจะใหญ่แล้ว ยังสามารถชมพื้นที่ใต้ท้องทะเลลึกที่งดงาม ได้เต็มตาที่สุด เพราะมีตู้กระจกอคริลิคที่กว้าง 22.5 เมตร สูง 8 เมตร หนา 60 เซนติเมตร ทีี่ถือว่าเป็นตู้กระจกใต้ท้องทะเลลึกที่เคยใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันถูกทำลายสถิติไปโดยอควาเรียมที่ดูไบ ส่วนปลาในบ่อนี้ก็ไม่ใช่ปลาเล็กปลาน้อย แต่เป็นปลาฉลาม ปลากระเบน และฉลามวาฬ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีขนาดใหญ่มาก นอกจากนั้นยังมีปลาชนิดอื่นอีกกว่า 16,000 ชนิดให้ได้ชม

มาดูบ่อผิวน้ำ

นอกจากดูบ่อใต้ทะเลที่สวยงามแล้ว ยังสามารถชมบ่อการแสดงแบบผิวน้ำได้ด้วย โดยเฉพาะบ่อฝึกโลมา ที่ให้เราชมการแสดงของโลมาสองสายพันธุ์ที่แสนรู้ ปลาโลมาปากขวด ปลาโลมาปากขวดสายพันธุ์อินโดแปซิฟิค และยังมีวาฬออสการ์ให้ชมฟรีโดยไม่เก็บค่าเข้าชมเพิ่มอีกด้วย

การเดินทาง : จากสนามบินนะฮะ ขึ้นแอร์พอร์ต ลีมูซีน บัส ไปยังพิพิธภัณฑ์ทางทะเลใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

ค่าเดินทาง 2,000 เยน

เวลาเปิดปิด 8.30 - 18.30 น. (ตุลาคม - กุมภาพันธ์) 8.30 - 20.00 น. (มีนาคม - กันยายน)

ค่าเข้าชม

8.30 - 16.00 น. ผู้ใหญ่ 1,850 เยน นักเรียนมัธยม 1,230 เยน เด็กประถม 610 เยน

16.00 - 20.00 น. ผู้ใหญ่ 1,290 เยน นักเรียนมัธยม 860 เยน เด็กประถม 430 เยน

ไคจูโดโร

ถนนที่เชื่อมต่อระหว่างเกาะทางเหนือและทางใต้มีระยะทางยาวถึง 4.7 กิโลเมตร โดยเส้นทางนี้จะวิ่งบนส่วนที่แคบที่สุดของเกาะตัดผ่านผิวน้ำไปยังเกาะทางเหนือ และยังเป็นถนนที่ผ่านสถานที่สำคัญๆอย่างสนามบินนะฮะ ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ทางทะเล เรียกว่าใครที่มาโอกินาว่า จะต้องผ่านเส้นทางนี้แน่นอน

การเดินทาง : ถนนแห่งนี้เชื่อมต่อกับสนามบินนะฮะ ถ้านั่งลีมูซีน จากสนามบินนะฮะไปยังพิพิธภัณฑ์ทางทะเล (ราคา 2,000 เยน) ก็จะผ่านถนนเส้นนี้

หุบเขากันกะร่า

หุบเขาที่มีถ้ำหินปูนอายุนับพันปี มีแท่งหินปูนยาวกว่า 20 เมตร เกิดจากการสะสมของหินปูนจากหยดน้ำเป็นเวลานับร้อยนับพันปี แถมบริเวณด้านหน้ายังมีต้นไทรอายุกว่าร้อยปีที่ตั้งตระหง่านอย่างงดงาม นอกจากความน่าตื่นตาตื่นใจแล้ว คนญี่ปุ่นถือว่าการมาเที่ยวชมถ้ำแห่งนี้จะนำพามาซึ่งการเจริญเติบโตและสุขภาพที่ดีด้วย

การเดินทาง : จากสนามบินนะฮะ ขับรถไปประมาณ 30 นาที

เวลาเปิดปิด 9.00 น. - 18.00 น.

เวลาเข้าชมคือ 10.00 น. 12.00 น. 14.00 น. และ 16.00 น. ซึ่งแต่ละรอบจะใช้เวลาเข้าชม 1 ชั่วโมง 20 นาที และต้องจองล่วงหน้า 1 วันในการเข้าชม

ค่าเข้าชม 2,000 เยน

ชิสะ สัตว์มงคลที่เห็นได้ทั่วไปในโอกินาว่า

ที่โอกินาว่า เราจะเห็นรูปปั้นสัตว์ชนิดหนึ่งคล้ายๆ สิงโตอยู่เต็มไปหมด ทั้งประตูทางเข้าร้าน ทั้งบนหลังคา แต่นั่นไม่ใช่สิงโตหรอกครับ เป็นสุนัขที่ชาวโอกินาว่าเชื่อว่า เป็นสัตว์เทพที่ทำหน้าที่ขับไล่ปีศาจได้ โดยชิสะจะมีสองตัว ตัวทางซ้ายจะปิดปาก และตัวทางขวาจะเปิดปาก ตัวที่ปิดปากหมายถึงการขับไล่ปีศาจชั่วออกไป ส่วนตัวที่เปิดปากจะเปิดรับวิญญาณดีๆ เข้ามา มีบางส่วนระบุว่าตัวที่ปิดปากคือเพศผู้ มีไว้ขับไล่ภัยพิบัติ และตัวที่เปิดปากคือเพศเมีย

ที่มาของชิสะนั้นไม่แน่ชัด มีหลายคนพยายามยืนยันว่า ชิสะ เป็นสิงโต แต่บางส่วนก็ระบุว่าเป็นสุนัข ที่บอกว่าเป็นสิงโตก็เพราะเชื่อกันว่า ชิสะ มีส่วนคล้ายกับสฟิงซ์ของอิยิปต์ และเดินทางเข้ามาพร้อมกับเรือของประเทศจีนมายังริวกิวนี้ บ้างก็เชื่อว่าชิสะคือรูปปั้นที่ทูตจีนนำมาถวายให้กับกษัตริย์ริวกิว อีกทั้งยังมีเรื่องเล่าที่ยังไม่มีการยืนยันว่า ชิสะที่ทูตจีนนำมามอบให้นั้นถูกกษัตริย์นำไปใช้ขับไล่มังกรยักษ์ ด้วยเสียงเห่าของชิสะทำให้มังกรช็อคและถูกหินตกลงมาทับตาย และกลายเป็นป่ากานะมุอิ (ข้อมูลจาก http://www.okinawainfo.net/) อย่างไรก็ตาม ชิสะก็ยังเป็นเครื่องประดับที่สำคัญในการขับไล่ภูตผีปีศาจ และดึงสิ่งที่ดีเข้ามาในบ้านมาจนถึงทุกวันนี้

ป่ากานะมุอิ

จากถนน 221 วิ่งจากสนามบินออกมาใกล้ๆ จุดเชื่อมต่อไปยังถนนวงแหวน 329 ไปทางขวามือของถนน จะพบป่ากานะ-มุอิ ป่าแห่งนี้เป็นเหมือนเกาะสีเขียวเล็กๆที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีทางเดินขึ้นไปด้านบนทำจากบล็อคเล็กๆ เรียงต่อกันเป็นเหมือนเส้นทางสำหรับปีนขึ้นไปไหว้พระ แถมยังสามารถชมวิวที่สวยงามของเมืองนะฮะตรงจุดนี้ได้อีกด้วย

การเดินทาง : นั่งโมโนเรลออกจากสนามบินข้ามไปยังสถานีโอโนยามะโคเอนสเตชั่น ออกจากสถานีไปทางขวามือไม่เกิน 500 เมตร ก็จะพบป่ากานะมุอิ

ค่าเดินทาง 260 เยน

ของฝาก!

ชิสะ ตุ๊กตาสุนัขเทพ

อย่างที่บอกไว้ข้างต้นถึงตำนานชิสะ ดังนั้นของฝากอย่างหนึ่งที่ขายบนถนนโคคุไซโดริก็จะมีตุ๊กตาหลายรูปแบบ ทั้งที่น่ารักน่าชัง ทั้งที่ดูจริงจังเหมาะกับการนำไปประดับโชว์ในตู้ หรือแบบที่ใช้ตั้งหน้าปากประตูจริงๆ ก็มีครับ มีหลายที่ที่ให้เราสามารถปั้นตุ๊กตาชิสะรวมทั้งลงสีเองได้ด้วย

เรื่อง: ธิติพันธ์ ตั้งชัยภิญโญกุล­

Comentários


Magazine
Tags
bottom of page