Ishikawa เมืองแห่งอาหารทะเลและผักสุดอร่อย!
- KENICHI ENOKIZONO
- 2016年8月30日
- 読了時間: 2分

ฉบับนี้ เราจะพาทุกท่านเดินทางไปชิมอาหารทะเลสุดอร่อย จากเมืองที่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนัก นั่นก็คือเมืองอิชิคาวะนั่นเอง อิชิคาวะเป็นเมืองที่มีรูปร่างเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล ติดกับภูเขาสูงฮะคุซัน ทำให้เป็นเมืองที่มีของดีทั้งในทะเล และภูเขาอาหารทะเลที่นี่ถือเป็นของขึ้นชื่อ และมีชื่อเสียงอย่าง อามะเอบิ และโคบาโกะคานิอีกทั้งอาหารทะเลอื่นๆ ก็สามารถหาทานได้ที่นี่แทบทุกชนิด อย่างเช่น ปลาบุริ ปลาซัมมะ หอยแครง หอยเป๋าฮื้อ เป็นต้น ส่วนผักต่างๆ ของที่นี่ ก็ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย อย่างเช่น คากะยะไซ ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วญี่ปุ่น (คากะยะไซ ผักจากเมืองคานาซาวะ ในจังหวัดอิชิคาวะ) และเมืองนี้ยังติดกับเมืองโทยามะ ที่คนไทยเดินทางไปดูเส้นทางภูเขาหิมะ (ทะเทยามะคุโรเบะ) อีกด้วย
ก่อนจะไปแนะนำตัวเมืองและการท่องเที่ยว ผมขอนำทุกท่านไปเพลิดเพลินกับตลาดโอมิโจ ในเมืองคานาซาวะเพื่อแนะนำอาหารทะเลหลากหลายชนิด รวมถึงร้านอาหารทะเลอร่อยๆ ภายในเมืองด้วยครับ
เที่ยวตลาดอาหารทะเล โอมิโจ!
ถ้าจะเดินดูอาหารทะเลที่เป็นของท้องถิ่น ที่ไหนจะดีไปกว่าตลาดสดของท้องถิ่นล่ะครับ และแน่นอนถ้าพูดถึงตลาดที่มีชื่อเสียงในอิชิคาวะ ซึ่งทางทีมงานของเราก็เคยไปชมกันมาแล้ว ก็ต้องตลาดโอมิโจ ของเมืองคานาซาวะนั่นเอง เราลองไปเดินดูแผงแต่ละแผงในตลาดโอมิโจกันดีกว่า ว่ามีอะไรอร่อยๆ บ้าง
โอมิโจ 1! จัดเต็มกับ โคบาโกะคานิ ปูสุดอร่อย

ในตลาดแห่งนี้ สิ่งแรกที่เราจะได้เห็นในทุกมุมของตลาด คือ โคบาโกะคานิ หลายคนอาจจะเข้าใจว่าปูชนิดนี้มีชื่อว่า ซุไวคานิ (ปูหิมะ หรือปูแมงมุม) หรือบางคนอาจจะบอกว่าเป็นปูทาราบะด้วยซ้ำ ซึ่งที่จริงแล้วโคบาโกะคานิก็คือ ซุไวคานินั่นเอง ที่นี่จะนิยมปูตัวเมียซึ่งมีขนาดเล็กกว่าปูตัวผู้ที่ปกติแล้วมักจะเป็นที่นิยมของคนทั่วไป เนื่องจากว่าปูขนาดเล็กจะมีไข่ และมันปูในกระดอง เนื้อก็มีรสหวานกว่าขนาดใหญ่ ซึ่งคนญี่ปุ่นจะนิยมทานน้ำซุปจากปูชนิดนี้ เพราะมันปูจะละลายในซุป ทำให้ซุปหวานอร่อย ปูชนิดนี้จะจับได้มากช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม ถึงแม้ว่าในฤดูกาลอื่นๆจะมีปูชนิดนี้อยู่ แต่ก็จะมีช่วงเวลาที่ห้ามล่าปูชนิดนี้เช่นกันคือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม เพราะจะเป็นฤดูวางไข่ ดังนั้นช่วงหลังจากนั้นจะเป็นช่วงที่มีปูชนิดนี้ขายเยอะมาก ซึ่งปูหิมะตัวเมียจะมีราคาถูกกว่าปูหิมะตัวผู้ แต่ด้วยความอร่อยและรสชาติเข้มข้นที่ว่านี้ ทำให้โคบาโกะคานิมีชื่อเสียงมากที่อิชิคาวะ และยังมีร้านอาหารจำนวนมากในเมืองนี้ที่ขายปูอร่อยๆ ชนิดนี้ครับ
โอมิโจ 2! อร่อยกับเนื้อหวานๆ ของอามะเอบิ
อาหารอร่อยขึ้นชื่ออีกอย่างของจังหวัดอิชิคาวะ คือกุ้งอามะเอบิ กุ้งชนิดนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก มีสีแดง ที่จังหวัดยามากาตะ จะเรียกกันว่า อากะเอบิ แต่ที่จังหวัดนีงะตะ จะมีชื่อเรียกเฉพาะว่า นัมบังเอบิ (กุ้งพิโรธ) กุ้งชนิดนี้มีอยู่มากในทะเลญี่ปุ่น เมื่ออยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก จะดูเหมือนอัญมณีเลยทีเดียว กุ้งชนิดนี้นิยมทานในช่วงเดือนกันยายนจนกระทั่งถึงเดือนมกราคม
จุดเด่นคือ รสชาติที่หวานอร่อย ทั้งแบบทานสดๆ หรือแบบทำสุกแล้ว ไข่ของอามะเอบิจะเป็นสีเทาอมฟ้า นอกจากนี้มันในหัวกุ้งก็ยังสามารถนำไปทำเป็นซุปมันกุ้ง (คุโซะคุนิ) ได้ด้วย
โอมิโจ 3! หอยเป๋าฮื้อธรรมชาติ!
หอยเป๋าฮื้อถือเป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน ซึ่งหอยเป๋าฮื้อที่อิชิคาวะนั้น เป็นเทนเนนอาวาบิ ซึ่งจับมาจากบริเวณเกาะเฮรุกะ (เฮรุกะชิมะ) ชาวประมงที่นี่จะสวมชุดสำหรับดำน้ำ ดำลงไปงมหอยเป๋าฮื้อในบริเวณที่มีสาหร่าย ซึ่งเป็นอาหารที่ทำให้หอยเป๋าฮื้อตัวโตและเนื้อแน่น

หอยเป๋าฮื้อนั้นสามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายวิธีครับ สามารถทานสดๆ ในแบบซาชิมิ ซูชิ นึ่งเหล้า หรืออาหารที่หลายคนอาจจะไม่คาดคิดอย่างสเต็กครับ ถือเป็นเมนูอาหารที่หรูหราบนโต๊ะอาหารอีกเมนูหนึ่ง ถึงขนาดมีการจัดงานเทศกาลหอยเป๋าฮื้อแห่งเมืองวาจิมะในจังหวัดอิชิคาวะเลยทีเดียว แต่นอกเหนือจากหอยเป๋าฮื้อของที่นี่แล้วก็ยังมีหอยเป๋าฮื้ออีกหลายๆที่ให้ไปลองชิมความสดอร่อยกัน อย่างเช่น ที่โอกายามะ ยามาคุระ มิยางิ เป็นต้น
ของฝาก! หอยเป๋าฮื้อนึ่งเหล้า กุ้งอามะเอบิ

นี่อาจจะเป็นของฝากที่แปลกประหลาดสักหน่อย แต่ตามร้านอาหารทะเลอร่อยๆ ในอิชิคาวะหลายแห่ง ทั้งที่เมืองวาจิมะ และคานาซาวะ มีหลายร้านที่นำเอาหอยเป๋าฮื้อนึ่งเหล้าที่ทำสำเร็จแล้วไปแพ็คแบบสูญญากาศเพื่อจำหน่ายเป็นของฝาก อามะเอบิก็เช่นกันจะเลือกเฉพาะกุ้งที่มีไข่ปรุงสุกและนำไปแพ็คสูญญากาศ ทำให้มีรสชาติหวานกรอบอร่อยสามารถทานได้ทั้งตัว สำหรับราคาหอยเป๋าฮื้อก็มีตั้งแต่ 6,000 เยน จนถึง 16,000 เยน ส่วนอามะเอบิราคาไม่แพงอยู่ที่ 1000 เยน ไปจนถึง 4500 เยนก็สามารถหาซื้อได้ นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อได้ตามเว็บไซต์ต่างๆอีกด้วย
โอมิโจ 4! ปลาสุดอร่อยหลากหลายชนิด
ปลาที่ตลาดโอมิโจ เป็นปลาสดๆที่ถูกจับได้ตั้งแต่ช่วงกลางคืน และนำขึ้นมาเทียบท่าก่อนที่จะขนมายังตลาดแห่งนี้ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ในเรื่องของความสดใหม่ ปลาที่เป็นสินค้าหลักๆ ของอิชิคาวะก็จะมีปลาอากะคะเร ปลาฮาตะฮาตะ ปลาฮอกเกะ ปลาบุริ ปลาซาวาระ ปลาอาจิ ปลาซาบะ รวมไปถึงปลาทูน่าดำ นอกจากปลาเหล่านี้ก็ยังมีปลาชนิดอื่นๆอีกมากมาย
ปลาบุริ

สำหรับปลาที่เราอยากยกมาให้รู้จักรสชาติความอร่อย นั่นก็คือปลาบุริครับ ปลาบุริเป็นปลาที่มีขนาดกลางซึ่งปลาบุริที่จับได้ที่อิชิคาวะนั้น มีน้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัมขึ้นไป ปลาบุริที่นี่ถือเป็นของดีที่มีรสชาติอร่อย มีเนื้อชมพูอ่อนๆ ไม่แดงจัดเท่าแซลมอน แต่ดูแล้วคล้ายๆ ชั้นหินอ่อนที่สวยงาม ทำซาชิมิอร่อย สามารถนำมาทำเป็นซาชิมิทอดกับซีอิ้ว หรือแม้กระทั่งนำไปทำชาบู ชาบู ก็อร่อยสุดๆ ครับ
ปลาอากะคะเร

ปลาตระกูลปลาลิ้นหมา ที่มีรสชาติโดดเด่นมาก ถือเป็นเมนูเด็ดสำหรับคนที่ชอบกินซาชิมิ เพราะเนื้อปลาที่แล่มาจะมีสีขาว และบางใส อีกทั้งยังมีความชุ่มฉ่ำ เป็นปลาที่นำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนูเลยทีเดียว ไม่ว่าจะนำไปทอดราดซอส หรือนำไปต้มกับโชยุก็อร่อยไม่แพ้กัน
โอมิโจ 5! ปลาหมึก ปลาหมึก ปลาหมึก!

ปลาหมึกก็เป็นอีกหนึ่งอาหารทะเลยอดนิยม จริงๆ พอเราพูดถึงปลาหมึกในญี่ปุ่น คนไทยก็มักจะนึกภาพไปถึงปลาหมึกยักษ์หัวกลมๆ กันมากกว่า แต่ว่าที่อิชิคาวะนี้ ปลาหมึกกล้วยเป็นปลาหมึกที่จับได้เป็นจำนวนมาก ไม่ใช่ปลาหมึกสาย หรือปลาหมึกยักษ์ โดยปลาหมึกที่ชาวประมงจับได้มากที่สุด คือ ปลาหมึกซุรุเมะ ซึ่งปลาหมึกชนิดนี้มีขนาดประมาณ 1 ฟุต มีรสหวานอร่อย นอกจากปลาหมึกซุรุเมะก็มีปลาหมึกหอก หรือยาริอิกะ ปลาหมึกหอม หรืออาโอริอิกะ และปลาหมึกหิ่งห้อย โฮตารุอิกะ ที่มีขนาดเล็กๆ

ซุรุเมะ อิกะ
เนื่องจากมีจำนวนมากปลาหมึกจึงเป็นหนึ่งในผลิตผลสำคัญของชาวประมงที่นี่ นำไปทำปลาหมึกตากแห้ง ปลาหมึกแช่แข็ง และแปรรูปในรูปแบบต่างๆ มากมาย แม้จะไม่ได้เป็นอาหารระดับเหลา แต่ถือเป็นปลาหมึกที่มีรสหวาน นิยมนำไปทานเป็นเมนูอิกะโซเมง นั่นก็คือปลาหมึกสดหั่นเป็นเส้นราดด้วยโชยุหรือพอนสึ หรือเมนูบาระอิกะลวกน้ำร้อน เป็นการนำปลาหมึกซุรุเมะหั่นเป็นเส้น ลวกด้วยน้ำร้อนไม่เกิน 80 องศา ก่อนจะแช่ในน้ำแข็งแล้วค่อยนำมาคลุกกับขิง หอม น่าทานมากครับ หรือเมนูปกติๆ ก็นำไปทำกันเยอะ อย่างเช่น เทมปุระ หรือย่างเกลือ ก็สามารถทำได้
ร้านซูชิระดับ TOP Class!
ซูชิโดโคโระมัทสึโนะ

ร้านซูชิที่เมืองคานาซาวะ จังหวัดอิชิคาวะ ร้านนี้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องซูชิอร่อยที่มีขนาดใหญ่กว่าซูชิปกติ เพราะจะมีขนาดวัตถุดิบที่โปะบนข้าวซูชิที่ใหญ่และยาวกว่าข้าวมากครับ ถือเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้เลยทีเดียว แถมยังเสิร์ฟด้วยวัตถุดิบสดใหม่หลากหลาย และยังมีราคาที่ไม่แพงเสียด้วย ตกหัวหนึ่งประมาณ 3,000 - 4,000 เยน เท่านั้น แค่เห็นภาพก็อยากทานแล้วล่ะครับ
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR นานะคุโบะ มาทางสถานีอุโนะเกะ ลงจากสถานีเดินลงมาตามถนนหน้าสถานีประมาณ 3 นาทีก็จะถึง
เวลาเปิดปิด วันธรรมดา กลางวัน 12.00 - 14.00 น. กลางคืน 17.00 - 20.00 น.
วันเสาร์ อาทิตย์ 11.30 - 20.00 น.
ราคาต่อหัว กลางวัน 3000 - 4000 เยน กลางคืน 4000 - 5000 เยน
เบอร์โทรศัพท์ 076-283-1826
Commentaires